เทศกาลวันตรุษจีน วันตรุษแปลว่าวันเริ่ม หมายถึงวันเริ่มต้น การเริ่มต้น วันใหม่ เริ่มฤดูกาลใหม่เริ่มปีใหม่ของคนจีนจะตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของชาวจีน ความเป็นมาคือประเทศจีนเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำไร่ไถ่นา ปรากฏว่าปีหนึ่งแบ่งเป็น 4 ฤดูกาลพอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาว ประเทศจีนจะหนาวมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูหนาว หิมะตกหนัก ไม่สามารถทำให้ทำนาได้เกษตรกรรมบางอย่างทำก็ไม่ได้เป็นช่วงที่ชาวนาได้พักร้อนยาวมาก พอถึงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นจะได้ทำนาทำไร่กัน เลยมีการบวงสรวงปีใหม่ธรรมเนียมนี้จากการที่อ่านประวัติศาสตร์ศึกษาลงไปประมาณ 3,200 ปีก่อน และปัจจุบันจะมีตุ๊กตาจีนเป็นคนตกปลาตัวหนึ่งซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ชื่อของท่านคือ เกียงไท้กง จะเป็นพระอาจารย์ของพระโอรสกษัตริย์ 2 พระองค์ ลูกศิษย์ของเกียงไท้กงที่เป็นโอรสองค์ที่ 2 จะเป็นผู้สำเร็จราชการของจีนในขณะนั้น แล้วเป็นผู้ที่คิดธรรมเนียมต่าง ๆ ขึ้นมา มีชื่อเรียกเป็นฉายาว่า จิวกงผู้คิดประเพณี จิวกงคิดธรรมเนียมตรุษจีน ว่าให้มีการไหว้เจ้าเมื่อจะเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิต มีธรรมเนียมหนึ่งที่น่าสนใจว่าห้ามฆ่าสัตว์ตัวเมียมาเซ่นไหว้ เพราะช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่สัตว์ผสมพันธุ์กัน การฆ่าสัตว์ตัวเมียอาจพลาดไปฆ่าตัวแม่ที่กำลังตั้งท้องลูกสิ่งเหล่านี้เป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน แต่ธรรมเนียมการไหว้เนื่องในวันตรุษจีนสืบทอดยาวนานมาจนถึงปัจจุบันนี้ คนจีนจะมีการไหว้ในวันสิ้นปี และมีการไหว้วันตรุษจีน ในเทศกาลวันตรุษจีนจะมีวันสำคัญ ๆ ที่ยึดถือเป็นหลักที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำว่าวันจ่าย วันไหว้วันถือ และมีประเพณีการไหว้อีกลักษณะหนึ่งซึ่งคนจีนบางบ้านจะมีการไหว้เจ้าเต่า ปัจจุบันจะเป็นธรรมเนียมที่เรียกว่าไหว้เหล่าเอียะเจี่ยถี่ ไหว้ส่งเสด็จเจ้าขึ้นสวรรค์จะตรงกับ
วันที่ 24 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของชาวจีนเมื่อไหว้เสร็จจะเริ่มทำความสะอาดบ้านกัน เป็นการล้างบ้านอย่างใหญ่ นอกเหนือจากที่ทุกวันปัดกวาดเช็ดถูธรรมดา ช่วงนี้จะล้างบ้าน คือเขามองว่าปีหนึ่งล้างบ้านให้สะอาดครั้งหนึ่ง ผู้ใหญ่ อาจจะให้เป็นเกร็ดความรู้จูงใจให้ล้างบ้านว่าล้างบ้านเพื่ออวยพรให้บ้านโชคดี ความโชคดีจะชอบบ้านที่สะอาด พอล้างบ้านเสร็จก็
เริ่มจับจ่ายใช้สอยเตรียมของไหว้เจ้า เพราะในวันสิ้นปีจะมีไหวเจ้าหลายอย่าง และในวันตรุษจีนมีไหว้เจ้าหลายอย่าง ปัจจุบันจะนิยมหยุดงานกันในวันสิ้นปี และในวันตรุษจีน และอาจมีหยุดต่ออีกหลายวัน เป็นช่วงที่จะจับจ่ายใช้สอยอะไร ซื้อให้เสร็จก่อนวันสิ้นปี จึงเกิดเป็นธรรมเนียมว่าก่อนสิ้นปี 1 วัน เรียกกันว่าเป็นวันจ่าย ขาดเหลืออะไรไปซื้อของให้เรียบร้อย และวันสิ้นปีจะเรียกเป็นวันไหว้ เพราะในวันสิ้นปีจะมีตั้งแต่ไหว้เจ้าในช่วงเช้า ไหว้บรรพบุรุษในช่วงก่อนเที่ยงวัน หรือบางบ้านไหว้เมื่อบ่ายโมง จะเป็นการไหว้ผีไม่มี
ญาติ วันไหว้วันเดียวไหว้ถึง3 ครั้ง พอหมดวันสิ้นปีประมาณเที่ยงคืน พอล่วงเช้าวันใหม่คนจีนจะนิยมไหว้ใช้ซิงเอี้ยะ หรือเทพเจ้าแห่งโชคภาพ ไหว้ถึง 4 อย่างใน 1 วัน 1 คืน พอเช้าวันตรุษจีนยังมีไหว้เจ้าง่าย ๆ และมีไหว้บรรพบุรุษอีกต่างหากแต่ที่น่าสนใจคือไหว้ใช้
ชิงเอี้ยะ จะมีการดูฤกษ์ยามที่ดี และการไหว้จะมีทิศของการไหว้ แต่ละปีใช้ชิงเอียะเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ จะเสด็จลงมาในทิศที่ไม่เหมือนกัน
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับของที่ใช้ไหว้เจ้าว่ามีอะไรบ้าง ถ้าเป็นการไหว้วันสิ้นปีจะไหว้ปกติคือมีของคาว ของหวาน ซึ่งจะมีขนมไหว้พิเศษสำหรับเทศกาลนี้คือขนมเข่งและขนมเทียน ขนมเข่งและขนมเทียนจะดูเป็นหลักว่าเทศกาลไหนมีไหว้ผีไม่มี
ญาติ จะมีไหว้ขนมเข่งและขนมเทียน และไหว้บรรพบุรุษจะมีเป็นปกติ นอกจากจะมีไหว้ของคาวคือพวกหมู ไก่ มีไหว้ขนมไหว้และผลไม้แล้ว จะมีกับข้าว 8 อย่าง 10 อย่างและมีไหว้ผีไม่มีญาติ ไปไหว้ที่นอกบ้านแล้วแต่จัด บางบ้านจัดมาก บางบ้านจัดน้อย บางบ้าน
จัดพอเป็นพิธีแต่ที่บ้านไม่ไหว้ผีไม่มีญาติในเทศกาลไหว้วันสิ้นปี ส่วนการไหว้ใช้ซิงเอี้ยะกับการไหว้ตรุษจีนจะพิเศษอย่างหนึ่งคือจัดง่าย ๆ จะไหว้ขนมมี ขนมอี๋ไหว้เพื่ออวยพรให้โชคดี ขนมจันอับ บางครั้งเรียกว่าขนมแต่เหลียง หรือขนมโหงวเช็กซึ้ง จะเป็นขนม 5 อย่างประกอบด้วยถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ถั่วเคลือบ และฟักเชื่อม และจะไหว้ส้ม ซึ่งส้มในเทศกาลตรุษจีนนิยมเป็นส้มสีทอง ส้มจะเป็นผลไม้ประจำเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นผลไม้ที่มีความหมายมงคล คนจีนเรียกว่าใต้อิด แปลว่าโชคดี มหามงคลและเตรียมน้ำชาอีก 3 ที่สำหรับไหว้ใช้ชิงเอี้ยะและมีกระดาษเงินกระดาษทอง และไหว้ธูป 3 ดอก พอช่วงเช้าวันตรุษจีนจะมีการไหว้เจ้าที่ด้วยของไหว้เหมือนกัน คือมีส้ม ขนมอี๋ และมีขนมจันทร์อับหรือขนม 5 อย่างนี้ และไหว้น้ำชาอีก 5 ถ้วย และไหว้ธูป 5 ดอก เพราะการไหว้เจ้าที่คือการไหว้ธาตุทั้ง 5 และไหว้บรรพบุรุษด้วยของไหว้ง่าย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน เพียงแต่เพิ่มอาหารแห้งเข้ามาอีกที่หนึ่งเท่านั้น เป็นการไหว้ที่ค่อนข้างมาก แต่เพื่อให้เป็นสิริมงคล นอกจากนี้ วันตรุษจีนจะเป็นช่วงเทศกาลซึ่งบางครั้งคนจีนจะเรียกว่าวันถือ จะมีวันจ่าย วันไหว้ วันถือ ถือคือถือที่จะพูดหรือสิ่งที่ดี ๆ อวยพรในสิ่งที่ดี ๆ แก่กัน ไม่ทำงาน เพราะกลัวพลาด และไม่ปัดกวาดเช็ดถู ไม่ทำอะไรที่เกรงว่าจะทำให้ของไม่ดีติดมา เช่นไม่กวาดบ้าน เพราะกลัวว่าจะกวาดเอาสิ่งดี ๆ ออกไป และกวาดเอาสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา การล้างชาม คนจีนจะมีเกร็ดความรู้นิดหนึ่ง
ว่า ถ้าพลาดทำจานชามกระเบื้องตกแตก ให้รีบพูดว่าขุยขุ่ยฉุ่ยตกปุ๊ยกุ่ย แปลว่ากระเบื้องเปิดปากแล้วจะร่ำรวยกันใหญ่ ธรรมเนียมของจีนมีหลายอย่างที่น่าสนใจ
วันสำคัญ ๆ ของวันตรุษจีน
วันสำคัญ ๆ ของวันตรุษจีนจะมีอยู่ 3 วันคือ วันจ่าย วันไหว้ และวันถือหรือวันเที่ยว ซึ่งชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนได้ถือปฏิบัติกันมาช้านาน มีรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวันถือในเทศกาลวันตรุษจีนนี้ที่บอกว่า ชาวจีนจะพูดและทำในสิ่งที่เป็นมงคล ไม่พูดจาหยาบคาย
จุดเด่นสำหรับเทศกาลตรุษจีน เป็นธรรมเนียมของการเริ่มต้นโดยมีจุดเด่นว่าเป็นข้อคิดว่าไหน ๆ จะเริ่มปีใหม่เริ่มให้ดีๆ ตั้งใจทำให้ดี ๆ ตั้งสมาธินิดหนึ่ง อะไรที่ดีและธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือ เป็นธรรมเนียมการไปอวยพรญาติมิตรเรียกว่า
ไปไป๊เนีย เอาส้ม 4 ผล ถ้าเป็นของดั้งเดิมที่เคยเห็นจะเอาส้ม 4 ผลใส่ผ้าเช็ดหน้าผู้ชายผืนใหญ่ไปไหว้ญาติมิตร ไปอวยพร แล้วส้ม 4 ผลให้ไปเจ้าบ้านจะรับมาจะมาเปลี่ยนเอาส้ม 2 ใบใส่เข้าไป แล้วคืนส้ม 4 ใบให้กับแขกผู้มาเยือนเป็นการอวยพร เป็นการแลกเปลี่ยน
โชคลาภ มอบโชคลาภให้แก่กัน แล้วเจอหน้ากันจะอวยพรกัน ซินเจียยู่อี่ ซินนี้อวดใช้ จะแปลว่าเวลาใหม่ให้สมใจ ปีใหม่ให้สมปรารถนาจะนิยมอวยพรเป็นคำอื่นก็ได้เช่น ห่วงสื่อยู่อี่ ทุกเรื่องให้สมปรารถนาที่เอามาตั้งเป็นชื่อหนังสือรวบรวมลวดลายศิริมงคล
จากคำอวยพรวันตรุษจีนเช่นกัน คำอวยพรวันตรุษจีนจะมีคำเฉพาะเรียกว่าตุ้ยเลี้ยง ตุ้ยแปลว่าคู่ เลี้ยงหมายถึงการแสดงความคิดเห็นเป็น 2 วลีคู่ อย่างซินเจียยู่อี่วลีหนึ่ง ซินนี้ฮวดใช้วลีหนึ่งคู่กันบางทีจะเป็นแผ่นป้ายคำอวยพรแปะไว้ที่หน้าประตูบ้านหาซื้อได้แถว
เยาวราช เพราะฉะนั้นตรุษจีนจุดเด่นคือการทำแต่สิ่งที่ดีพูดคำดี อวยพรแต่สิ่งที่ดี บางบ้านจะมีการปิดยันต์แผ่นใหม่ที่หน้าประตูบ้าน เพื่อให้คุ้มครองตัวเราและครอบครัว จังสังเกตได้ว่าข้อดีหรือจุดเด่นของวันตรุษจีนนั้น ชาวจีนจะทำแต่สิ่งที่ดี พูดดี และไปอวยพร
ญาติมิตรหรือญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูสำหรับอดีตไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน และไม่ได้ไปศึกษา แต่มองว่าปัจจุบันนี้คนจีนยังคงธรรมเนียมนี้อยู่ เป็นธรรมเนียมที่ได้รับการสนใจและสืบสานจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไปย่านเยาวราชวันจ่ายอย่าได้ผ่าน
ไป รถจะติดมาก และทุกปีเป็นอย่างนี้ เชื่อว่าปีนี้จะยังคงติดอยู่ ยังคงไปจับจ่ายซื้อของกัน และก่อนเริ่มเทศกาลประมาณเดือนหนึ่งจะมีการตั้งแผงขายตุ้ยเลี้ยงหรือแผ่นคำมงคลอวยพรไปหาซื้อได้ เป็นแผ่นแดง ๆ และมีตัวอักษรจีนสีทองพิมพ์แปะอยู่ เลือกได้ชอบคำ
ไหน ปีนี้ถ้าอวยพรท่านผู้ฟัง จะอวยพรว่าโป่วโป่วกาเซ็ง แปลว่าทุกก้าวให้สำเร็จ เพราะในภาวะเศรษฐกิจสังคมที่ทุกคนบอกมีปัญหามาก ติดขัดไปหมด การทำงานขาดทุนแล้วขาดทุนอีกจะไปรอดไม่รอด อยากอวยพรโป่วโป่วกาเซ็ง ทุกก้าวให้สำเร็จ ไม่ว่าจะทำ
อะไรขอให้สำเร็จ ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้ไปรอดปลอดภัย และอีกคำหนึ่งซุกยิบเพ็งอัง แปลว่าเข้าออกปลอดภัย เพราะทุกวันนี้มีอุบัติเหตุมีอะไรที่เราคาดไม่ถึง จะเข้าออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัย ขอให้โชคดีและทุก ๆ ก้าวให้สำเร็จ
ในโอกาสที่สัปดาห์นี้เป็นเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน คุณจิตราได้กรุณาฝากคำอวยพรไปถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีเชื้อสายจีนหรือชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยอย่างที่อวยพรว่าโป่วโป่วกาเซ็ง ให้ทุกก้าวสำเร็จ ให้ชุกยิบเพ็งอัง
คือชีวิตที่เข้านอกออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัย และฝากเกร็ดความรู้อีกนิดหนึ่งคนจีนที่พิถีพิถันจะดูฤกษ์ยามในการออกนอกบ้านครั้งแรกในวันตรุษจีน คือจะเป็นความเชื่อของคนโบราณว่าถ้าออกนอกบ้านในช่วงเวลาที่ดีจะราบรื่นเรื่อยไปตลอดปี แต่ถ้าออกนอกบ้าน
ครั้งแรกผิดเวลา เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีอาจจะมีอะไรติดขัด ฝากให้ลองดูว่าอาจเป็นไปได้ เป็นกำลังใจนิดหนึ่ง และเกร็ดความรู้อีกอย่างหนึ่งคือจีนหยุดยาว บางคนจะดูฤกษ์ยามในการเปิดร้านหลังวันตรุษจีน บางคนดูฤกษ์วันดี บางคนดูฤกษ์สะดวก เช่น บางคนจะ
ดูว่าที่เล่าไว้ว่าจะมีการไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ในวันที่ 24 เดือน 12 ซึ่งเจ้าจะขึ้นสวรรค์ 10 วัน และจะลงมาอีกทีวันที่ 4 เดือน 1 บางคนถือเป็นฤกษ์ว่าเจ้าลงมาแล้วจะอวยพรให้ปลอดภัย ให้ก้าวหน้าโชคดี จะเปิดกิจการเปิดร้านในวันที่ 4 เดือน 1 ตรงนี้สะท้อนความ
หลากหลาย บางคนเปิดงานในวันสะดวก บางคนเปิดงานในวันฤกษ์ดี บางคนเปิดงานในวันที่เหล่าเอี้ยะเหล่าที คือเจ้าเสด็จลงมา ตรงนี้สะท้อนคำว่าธรรมเนียม แปลว่าความนิยม อาจจะนิยมต่างกันได้ เพราะฉะนั้นคือเกร็ดความรู้ที่ขอฝากท่านผู้ฟัง และอย่างที่
ฝากไว้ว่าคำอวยพรสำหรับปีนี้ โป่วโป่วกาเซ็ง ทุกก้าวให้สำเร็จชุกยิบเพ็งอัง เข้าออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัยโชคดี แถมอีกคำหนึ่งบ่งสื่อหยู่อี้ ทุกเรื่องให้สมปรารถนา
ที่มา : "ตึ่ง หนั่ง เกี้ย" โดย จิตรา ก่อนันทเกียรติ
วันที่ 24 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของชาวจีนเมื่อไหว้เสร็จจะเริ่มทำความสะอาดบ้านกัน เป็นการล้างบ้านอย่างใหญ่ นอกเหนือจากที่ทุกวันปัดกวาดเช็ดถูธรรมดา ช่วงนี้จะล้างบ้าน คือเขามองว่าปีหนึ่งล้างบ้านให้สะอาดครั้งหนึ่ง ผู้ใหญ่ อาจจะให้เป็นเกร็ดความรู้จูงใจให้ล้างบ้านว่าล้างบ้านเพื่ออวยพรให้บ้านโชคดี ความโชคดีจะชอบบ้านที่สะอาด พอล้างบ้านเสร็จก็
เริ่มจับจ่ายใช้สอยเตรียมของไหว้เจ้า เพราะในวันสิ้นปีจะมีไหวเจ้าหลายอย่าง และในวันตรุษจีนมีไหว้เจ้าหลายอย่าง ปัจจุบันจะนิยมหยุดงานกันในวันสิ้นปี และในวันตรุษจีน และอาจมีหยุดต่ออีกหลายวัน เป็นช่วงที่จะจับจ่ายใช้สอยอะไร ซื้อให้เสร็จก่อนวันสิ้นปี จึงเกิดเป็นธรรมเนียมว่าก่อนสิ้นปี 1 วัน เรียกกันว่าเป็นวันจ่าย ขาดเหลืออะไรไปซื้อของให้เรียบร้อย และวันสิ้นปีจะเรียกเป็นวันไหว้ เพราะในวันสิ้นปีจะมีตั้งแต่ไหว้เจ้าในช่วงเช้า ไหว้บรรพบุรุษในช่วงก่อนเที่ยงวัน หรือบางบ้านไหว้เมื่อบ่ายโมง จะเป็นการไหว้ผีไม่มี
ญาติ วันไหว้วันเดียวไหว้ถึง3 ครั้ง พอหมดวันสิ้นปีประมาณเที่ยงคืน พอล่วงเช้าวันใหม่คนจีนจะนิยมไหว้ใช้ซิงเอี้ยะ หรือเทพเจ้าแห่งโชคภาพ ไหว้ถึง 4 อย่างใน 1 วัน 1 คืน พอเช้าวันตรุษจีนยังมีไหว้เจ้าง่าย ๆ และมีไหว้บรรพบุรุษอีกต่างหากแต่ที่น่าสนใจคือไหว้ใช้
ชิงเอี้ยะ จะมีการดูฤกษ์ยามที่ดี และการไหว้จะมีทิศของการไหว้ แต่ละปีใช้ชิงเอียะเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ จะเสด็จลงมาในทิศที่ไม่เหมือนกัน
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับของที่ใช้ไหว้เจ้าว่ามีอะไรบ้าง ถ้าเป็นการไหว้วันสิ้นปีจะไหว้ปกติคือมีของคาว ของหวาน ซึ่งจะมีขนมไหว้พิเศษสำหรับเทศกาลนี้คือขนมเข่งและขนมเทียน ขนมเข่งและขนมเทียนจะดูเป็นหลักว่าเทศกาลไหนมีไหว้ผีไม่มี
ญาติ จะมีไหว้ขนมเข่งและขนมเทียน และไหว้บรรพบุรุษจะมีเป็นปกติ นอกจากจะมีไหว้ของคาวคือพวกหมู ไก่ มีไหว้ขนมไหว้และผลไม้แล้ว จะมีกับข้าว 8 อย่าง 10 อย่างและมีไหว้ผีไม่มีญาติ ไปไหว้ที่นอกบ้านแล้วแต่จัด บางบ้านจัดมาก บางบ้านจัดน้อย บางบ้าน
จัดพอเป็นพิธีแต่ที่บ้านไม่ไหว้ผีไม่มีญาติในเทศกาลไหว้วันสิ้นปี ส่วนการไหว้ใช้ซิงเอี้ยะกับการไหว้ตรุษจีนจะพิเศษอย่างหนึ่งคือจัดง่าย ๆ จะไหว้ขนมมี ขนมอี๋ไหว้เพื่ออวยพรให้โชคดี ขนมจันอับ บางครั้งเรียกว่าขนมแต่เหลียง หรือขนมโหงวเช็กซึ้ง จะเป็นขนม 5 อย่างประกอบด้วยถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ถั่วเคลือบ และฟักเชื่อม และจะไหว้ส้ม ซึ่งส้มในเทศกาลตรุษจีนนิยมเป็นส้มสีทอง ส้มจะเป็นผลไม้ประจำเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นผลไม้ที่มีความหมายมงคล คนจีนเรียกว่าใต้อิด แปลว่าโชคดี มหามงคลและเตรียมน้ำชาอีก 3 ที่สำหรับไหว้ใช้ชิงเอี้ยะและมีกระดาษเงินกระดาษทอง และไหว้ธูป 3 ดอก พอช่วงเช้าวันตรุษจีนจะมีการไหว้เจ้าที่ด้วยของไหว้เหมือนกัน คือมีส้ม ขนมอี๋ และมีขนมจันทร์อับหรือขนม 5 อย่างนี้ และไหว้น้ำชาอีก 5 ถ้วย และไหว้ธูป 5 ดอก เพราะการไหว้เจ้าที่คือการไหว้ธาตุทั้ง 5 และไหว้บรรพบุรุษด้วยของไหว้ง่าย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน เพียงแต่เพิ่มอาหารแห้งเข้ามาอีกที่หนึ่งเท่านั้น เป็นการไหว้ที่ค่อนข้างมาก แต่เพื่อให้เป็นสิริมงคล นอกจากนี้ วันตรุษจีนจะเป็นช่วงเทศกาลซึ่งบางครั้งคนจีนจะเรียกว่าวันถือ จะมีวันจ่าย วันไหว้ วันถือ ถือคือถือที่จะพูดหรือสิ่งที่ดี ๆ อวยพรในสิ่งที่ดี ๆ แก่กัน ไม่ทำงาน เพราะกลัวพลาด และไม่ปัดกวาดเช็ดถู ไม่ทำอะไรที่เกรงว่าจะทำให้ของไม่ดีติดมา เช่นไม่กวาดบ้าน เพราะกลัวว่าจะกวาดเอาสิ่งดี ๆ ออกไป และกวาดเอาสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา การล้างชาม คนจีนจะมีเกร็ดความรู้นิดหนึ่ง
ว่า ถ้าพลาดทำจานชามกระเบื้องตกแตก ให้รีบพูดว่าขุยขุ่ยฉุ่ยตกปุ๊ยกุ่ย แปลว่ากระเบื้องเปิดปากแล้วจะร่ำรวยกันใหญ่ ธรรมเนียมของจีนมีหลายอย่างที่น่าสนใจ
วันสำคัญ ๆ ของวันตรุษจีน
วันสำคัญ ๆ ของวันตรุษจีนจะมีอยู่ 3 วันคือ วันจ่าย วันไหว้ และวันถือหรือวันเที่ยว ซึ่งชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนได้ถือปฏิบัติกันมาช้านาน มีรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวันถือในเทศกาลวันตรุษจีนนี้ที่บอกว่า ชาวจีนจะพูดและทำในสิ่งที่เป็นมงคล ไม่พูดจาหยาบคาย
จุดเด่นสำหรับเทศกาลตรุษจีน เป็นธรรมเนียมของการเริ่มต้นโดยมีจุดเด่นว่าเป็นข้อคิดว่าไหน ๆ จะเริ่มปีใหม่เริ่มให้ดีๆ ตั้งใจทำให้ดี ๆ ตั้งสมาธินิดหนึ่ง อะไรที่ดีและธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือ เป็นธรรมเนียมการไปอวยพรญาติมิตรเรียกว่า
ไปไป๊เนีย เอาส้ม 4 ผล ถ้าเป็นของดั้งเดิมที่เคยเห็นจะเอาส้ม 4 ผลใส่ผ้าเช็ดหน้าผู้ชายผืนใหญ่ไปไหว้ญาติมิตร ไปอวยพร แล้วส้ม 4 ผลให้ไปเจ้าบ้านจะรับมาจะมาเปลี่ยนเอาส้ม 2 ใบใส่เข้าไป แล้วคืนส้ม 4 ใบให้กับแขกผู้มาเยือนเป็นการอวยพร เป็นการแลกเปลี่ยน
โชคลาภ มอบโชคลาภให้แก่กัน แล้วเจอหน้ากันจะอวยพรกัน ซินเจียยู่อี่ ซินนี้อวดใช้ จะแปลว่าเวลาใหม่ให้สมใจ ปีใหม่ให้สมปรารถนาจะนิยมอวยพรเป็นคำอื่นก็ได้เช่น ห่วงสื่อยู่อี่ ทุกเรื่องให้สมปรารถนาที่เอามาตั้งเป็นชื่อหนังสือรวบรวมลวดลายศิริมงคล
จากคำอวยพรวันตรุษจีนเช่นกัน คำอวยพรวันตรุษจีนจะมีคำเฉพาะเรียกว่าตุ้ยเลี้ยง ตุ้ยแปลว่าคู่ เลี้ยงหมายถึงการแสดงความคิดเห็นเป็น 2 วลีคู่ อย่างซินเจียยู่อี่วลีหนึ่ง ซินนี้ฮวดใช้วลีหนึ่งคู่กันบางทีจะเป็นแผ่นป้ายคำอวยพรแปะไว้ที่หน้าประตูบ้านหาซื้อได้แถว
เยาวราช เพราะฉะนั้นตรุษจีนจุดเด่นคือการทำแต่สิ่งที่ดีพูดคำดี อวยพรแต่สิ่งที่ดี บางบ้านจะมีการปิดยันต์แผ่นใหม่ที่หน้าประตูบ้าน เพื่อให้คุ้มครองตัวเราและครอบครัว จังสังเกตได้ว่าข้อดีหรือจุดเด่นของวันตรุษจีนนั้น ชาวจีนจะทำแต่สิ่งที่ดี พูดดี และไปอวยพร
ญาติมิตรหรือญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูสำหรับอดีตไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน และไม่ได้ไปศึกษา แต่มองว่าปัจจุบันนี้คนจีนยังคงธรรมเนียมนี้อยู่ เป็นธรรมเนียมที่ได้รับการสนใจและสืบสานจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไปย่านเยาวราชวันจ่ายอย่าได้ผ่าน
ไป รถจะติดมาก และทุกปีเป็นอย่างนี้ เชื่อว่าปีนี้จะยังคงติดอยู่ ยังคงไปจับจ่ายซื้อของกัน และก่อนเริ่มเทศกาลประมาณเดือนหนึ่งจะมีการตั้งแผงขายตุ้ยเลี้ยงหรือแผ่นคำมงคลอวยพรไปหาซื้อได้ เป็นแผ่นแดง ๆ และมีตัวอักษรจีนสีทองพิมพ์แปะอยู่ เลือกได้ชอบคำ
ไหน ปีนี้ถ้าอวยพรท่านผู้ฟัง จะอวยพรว่าโป่วโป่วกาเซ็ง แปลว่าทุกก้าวให้สำเร็จ เพราะในภาวะเศรษฐกิจสังคมที่ทุกคนบอกมีปัญหามาก ติดขัดไปหมด การทำงานขาดทุนแล้วขาดทุนอีกจะไปรอดไม่รอด อยากอวยพรโป่วโป่วกาเซ็ง ทุกก้าวให้สำเร็จ ไม่ว่าจะทำ
อะไรขอให้สำเร็จ ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้ไปรอดปลอดภัย และอีกคำหนึ่งซุกยิบเพ็งอัง แปลว่าเข้าออกปลอดภัย เพราะทุกวันนี้มีอุบัติเหตุมีอะไรที่เราคาดไม่ถึง จะเข้าออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัย ขอให้โชคดีและทุก ๆ ก้าวให้สำเร็จ
ในโอกาสที่สัปดาห์นี้เป็นเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน คุณจิตราได้กรุณาฝากคำอวยพรไปถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีเชื้อสายจีนหรือชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยอย่างที่อวยพรว่าโป่วโป่วกาเซ็ง ให้ทุกก้าวสำเร็จ ให้ชุกยิบเพ็งอัง
คือชีวิตที่เข้านอกออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัย และฝากเกร็ดความรู้อีกนิดหนึ่งคนจีนที่พิถีพิถันจะดูฤกษ์ยามในการออกนอกบ้านครั้งแรกในวันตรุษจีน คือจะเป็นความเชื่อของคนโบราณว่าถ้าออกนอกบ้านในช่วงเวลาที่ดีจะราบรื่นเรื่อยไปตลอดปี แต่ถ้าออกนอกบ้าน
ครั้งแรกผิดเวลา เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีอาจจะมีอะไรติดขัด ฝากให้ลองดูว่าอาจเป็นไปได้ เป็นกำลังใจนิดหนึ่ง และเกร็ดความรู้อีกอย่างหนึ่งคือจีนหยุดยาว บางคนจะดูฤกษ์ยามในการเปิดร้านหลังวันตรุษจีน บางคนดูฤกษ์วันดี บางคนดูฤกษ์สะดวก เช่น บางคนจะ
ดูว่าที่เล่าไว้ว่าจะมีการไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ในวันที่ 24 เดือน 12 ซึ่งเจ้าจะขึ้นสวรรค์ 10 วัน และจะลงมาอีกทีวันที่ 4 เดือน 1 บางคนถือเป็นฤกษ์ว่าเจ้าลงมาแล้วจะอวยพรให้ปลอดภัย ให้ก้าวหน้าโชคดี จะเปิดกิจการเปิดร้านในวันที่ 4 เดือน 1 ตรงนี้สะท้อนความ
หลากหลาย บางคนเปิดงานในวันสะดวก บางคนเปิดงานในวันฤกษ์ดี บางคนเปิดงานในวันที่เหล่าเอี้ยะเหล่าที คือเจ้าเสด็จลงมา ตรงนี้สะท้อนคำว่าธรรมเนียม แปลว่าความนิยม อาจจะนิยมต่างกันได้ เพราะฉะนั้นคือเกร็ดความรู้ที่ขอฝากท่านผู้ฟัง และอย่างที่
ฝากไว้ว่าคำอวยพรสำหรับปีนี้ โป่วโป่วกาเซ็ง ทุกก้าวให้สำเร็จชุกยิบเพ็งอัง เข้าออกนอกบ้านขอให้ปลอดภัยโชคดี แถมอีกคำหนึ่งบ่งสื่อหยู่อี้ ทุกเรื่องให้สมปรารถนา
ที่มา : "ตึ่ง หนั่ง เกี้ย" โดย จิตรา ก่อนันทเกียรติ